## ตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีแบรนด์ ASUS DELL ACER HP LENOVO MSI ## ศูนย์บริการ ซื้อขาย - แลกเปลี่ยน โน้ตบุ๊คทุกยี่ห้อ #ศูนย์บริการ รับซ่อม โน้ตบุ๊คทุกรุ่น ทุกอาการ#พร้อม อะไหล่ ทุกยี่ห้อ แจ้งราคาก่อนซ่อมทุกครั้ง TEL..086-4482347 / 055-251876

 

ข้อแนะนำในการเลือกซื้อNOTEBOOK ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
  • 5 มกราคม 2017 at 15:19
  • 2906
  • 0

ข้อแนะนำในการเลือกซื้อNOTEBOOK ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การตรวจเช็คโน๊ตบุคตอนซื้อ
1. คุยเกี่ยวกับข้อมูลสินค้าเช่น สเปก เงื่อนไขการรับประกัน(กี่ปี ประกันส่วนไหนบ้าง ประกัน DeadPixel หรือไม่ยังไง การซื้อประกันเพิ่ม) *
• การเพิ่มRam เงื่อนไขการชำระเงิน เป็นต้นกับผู้ขายเพื่อเป็นการยืนยันอีกครั้ง *
2. ห้ามจ่ายตังค์หรือให้หลักฐานใด หรือยังไม่ให้ผู้ขายออกหลักฐานการซื้อเด็ดขาด เพื่อเป็นการปลอดข้อผูกมัด จนกว่าจะผ่านข้อ *******
3. ตรวจอุปกรณ์หลักครับ ที่ชาร์จ CD-Driver สายสะพาย คู่มือ ใบรับประกัน ใบชิงโชค และอื่น ๆ ที่พึงจะมีให้ครบถ้วน *
4. ดูรูปลักษณ์ภายนอกครับ มีรอยบุบ ถลอกหรือไม่ น๊อตสกรู มีรอยเหมือนถูกเปิดsingมาหรือเปล่า Void ครบ(ประกันเครื่อง จอกี่ปีแบบไหน)และ แปะถูกที่หรือไม่ ทั้งตัวเครื่องและที่ Accessories อ้ออย่าลืมพลิกดูสติกเกอร์Serialที่ใต้เครื่องด้วยหล ะว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่ขาดหรือเรือนนะ และดูว่าตรงกะที่กล่องหรือไม่ แล้วจดไว้ก็ดี *
5. ถามเลยว่า ถ้าเอากลับบ้านไปแล้ว เครื่องมีปัญหาภายใน 7 วัน เอามาแล้วเปลี่ยนตัวใหม่ให้ได้หรือไม่ ( ซึ่งควรจะเปลี่ยนให้ได้ ) *
6. ถ้าต้องการเพิ่ม Ram ให้ร้านเค้าเพิ่มให้เลย (จะซื้อกับร้านหรือเอามาเองก็ได้ถ้าเค้ายอม) *
7. ให้เขาลง windows ให้เรียบร้อย พร้อมลงไดร์เวอร์ให้ครบ เพื่อทดสอบ * ถ้ารอได้
8. เสียบสายชาร์จเพื่อเป็นการทดสอบที่ชาร์จไปในตัว แล้วใช้โปรแกรมทดสอบ dead pixel หน้าจอ ติดตั้งโปรแกรมBenckMark เช่น SisOfSandra (เวอร์ชั่นใหม่หน่อยนะเดี่ยวไม่รู้จักตัวอุปกรณ์) แล้วเช็คSpecว่าถูกต้องตามรายการหรือไม่ และต้องเห็นRamที่เพิ่มเข้าไปด้วย ถึงตอนนี้ก็ครึ่งทางแล้วนะ เตรียมเสียตังค์ได้เลย *
9. ถอดสายชาร์จออก แล้วลองเล่นดังนี้
10. เปิด Bluetooth กับ WiFi พร้อมกัน เครื่องต้องไม่hank และไม่กวนเข้าจอภาพ *
11. ลองเล่นNetผ่านWiFiดู
12.ลองเล่นBluetoothกะมือถือดู *
13. ลองปรับค่าต่างๆดู เช่น Brightness Contrast เป็นต้น แล้วดูว่าจอผิดปกติหรือไม่
14. ลองให้อ่านไฟล์จากDVDที่เตรียมไปดู เช่น เปิดหนังที่เตรียมไปจากแผ่นโดยตรง *แล้วcopyไฟล์นั้นลงเครื่องไว้
15. ลองลบDVD-RWและเขียนไฟล์ที่copyไว้กลับเข้าแผ่นและอ่านไฟล์ที่ เขียนอีกครั้งลองอื่นๆ ได้แก่ FlashDrive MemCard Mouseที่แถม ลำโพง หูฟัง *
16. ปุ่มkeyboard ต่างโดยทดสอบกับโปรแกรมnotepadก็ได้ *(สามารถทำระหว่างรอเขียนDVDในข้อb8.6ก็ได้) อ้อสังเกตดูว่าเครื่องร้อน หรือมีเสียงหรือสิ่งผิดปกติหรือปล่าว *
17. ShutDownเครื่อง แล้วเปิดเครื่องใหม่และปล่อยให้เข้าwindowsอีกครั้ง เป็นอันผ่านบททดสอบ *
• note ถ้าระหว่างที่ทำข้อb8อยู่เกิดLowBatt ก็ให้เสียบชาร์จกลับไป แต่ถ้าให้ดีขอให้ผ่านข้อb8.6มาก่อนก็ดี
18.มาถึงตรงจุดนี้ได้แสดงว่าเจ้าnotebookที่เราปู้ยี้ปู ้ยำมาพอควรก็พร้อมที่จะเป็นเพื่อนร่วมโลกของเราแล้ว (ทางร้านคงเซ็งเราแล้วด้วย)
19. จ่ายตังค์ และอย่าลืมดูเวลาเค้าเก็บเข้ากล่องด้วยว่าไม่มีอะไรผ ิดปกติ เวลาที่รอเอกสาร *******
20. ตรวจสอบเอกสาร ได้แก่ ใบเสร็จ ใบกำกับภาษี เอกสารแสดงการรับประกัน *******โดยรายละเอียดในเอกสารต้องถูกต้อง เช่น Serielต้องตรงกะตัวเครื่อง ชื่อร้าน ลายเซ็นของทางร้าน เป็นต้น ต้องถูกต้องและเรียบร้อย นะ
21. เตรียมลีมูซีนรับมันกลับบ้าน

 เมื่อถึงบ้านก็พักจิบกาแฟ ดูทีวีซักพัก เพื่อเป็นการพักหย่อนใจ แล้วเริ่มงานต่อ(สำหรับท่านอื่นอาจไม่ต้องทำแล้วก็ได ้ แต่ผมทำเพราะต้องจับผิดมันให้ได้ภายใน 7 วัน ถ้ามีจริงก็จาได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ได้ทัน)
 เตรียมอุปกรณ์ ได้แก่ แผ่นWindows Driver(โหลดตัวล่าสุดจากเว็ปผู้ผลิตมาเขียนใส่CDไว้ด ้วยก็ดี) Software ต่างๆ
 เสียบที่ชาร์จ เปิดเครื่อง แล้วแบ่งพาร์ทิชั่น(ถ้าต้องการ) ฟอร์แมต ลงWindowsใหม่หมด
 ลงไดร์เวอร์ SoftwareConsole(management)ต่างๆของผู้ผลิต และโปรแกรมที่ต้องการใช้งาน
 ลงBenckMarkแล้วทดสอบอย่างหนัก(และจะทำตามข้อb8.1-b8.8ซ้ำก็ดีนะ) แล้วลองนำผลที่ได้ไปเทียบกับชาวบ้านดู(หาได้ตามเว็ปไ ซด์) แล้วไม่ต้องซีเรียสมากถ้าค่าไม่ได้เท่าเค้า แต่ก็ไม่ควรแพ้เครื่องที่สเปกต่ำกว่า ถ้าค่าผิดปกติอาจมาจากการลงในข้อ2ไม่ดีพอ หรือไดร์เวอร์ไม่อัพ หรือเครื่องอยู่ไม่ในโหมดทำงานเต็มอัตราศึก(performe nce) ก็ได้ลองตรวจสอบดู
 เมื่อเสร็จแล้วcaptureค่าไว้ดูเป็นที่ระลึกก็ได้(ผมท ำเพราะมันดูแล้วทำให้ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่เปิดขึ้นม าดู)
 burn เครื่องไว้จนแบตหมดเป็นการเคลียร์แบต แล้วเสียบชาร์ตทิ้งไว้โดยไม่ต้องเปิดเครื่อง 8-10 ชม. เพื่อเป็นการกระตุ้นแบต ซึ่งควรทำการกระตุ้นแบบนี้2-3ครั้งเพื่อเป็นการOverhaul แล้วค่อยใช้งานปกติ
พามันไปสูดอากาศข้างนอกเพื่อเป็นการทดสอบว่ามันพร้อม เดินทางกะเราไหม เช่น ไปนั่งจิบกาแฟแล้วเล่นเน็ตจากwirelessของร้าน(เป็นกา รทำให้ภาพลักษณ์ของตนเองดีขึ้น ระวังหน้าแตกตอนเครื่องเกิดงอแงหละ) ไปpresentงานจะได้เป็นการลองต่อมันกับโปรเจคเตอร์ไปใ นตัว หรือจะเปิดหนังปลุกใจเสือป่าบนรถเมล์ก็ได้ถ้าใจถึง(แ ต่ผมเคย!!!) เป็นต้น
ถ้าทำได้ทั้งหมดภายใน 7 วันนี้ โดยที่มันไม่งอแงเลย ก็แต่งตั้งมันให้เป็น "ซางกุงสูงสุด" ได้เลย แต่ถ้างอแงก็ส่งกลับเชจู(ร้าน/ศูนย์)ซะ



การผลิต cpu สำหรับ notebook นั้นจะต้องอาศัยเทคโนโลยีในการผลิต ที่สูงกว่า cpu ทั่วไปเพราะจะต้องคำนึงถึงเรื่องความร้อนของ cpu และอัตราการกินไฟของ cpu เป็นสำคัญ


อัตราการกินไฟของ cpu คืออะไร เปรียบเทียบง่ายๆ ถ้ามีพลังงานที่เท่ากัน cpu สำหรับ notebook จะมีระยะเวลาในการทำงานได้นานกว่า cpu สำหรับ desktop คือ cpu notebook จะให้งานกับแบตเตอร์รี่มาตรฐานที่ให้มากับเครื่องได้ประมาณ 3 ช.ม. ส่วน cpu desktop จะใช้งานได้ประมาณ 1 ช.ม. นิดๆๆ สรุป ก็คือต้องเลือกใช่ cpu สำหรับ notebook เท่านั้น


ใน อเมริกา notebook ที่ได้รับความนิยมจะมีอยู่ 2 ยี่ห้อที่นิยมกัน คือ DEL กับ TOSHIBA ของ Del นั้นจะได้รับความนิยมมากกว่า


ถ้าในกรณีที่ซื้อกลับมาใช้ที่เมืองไทยเป็นหลัก ให้ดูยี่ห้อ Acer  compaq  Lenovo เพราะว่า Acer  ก็มีการรับประกับแบบ อุบัติเหตุ  ทุกรุ่น  แต่ แบร์นดอื่น มีเหมือนกัน แต่ได้เป็นบางรุ่น 
อีกอย่างสเปกสูง ราคาถูก  แต่หากขี้เกียจรออะไหล่  ก็ต้องเลือก คุณภาพ แบบ onsite service  ก็ต้องเป็นยี่ห้อ dell  Toshiba  IBM  Mac   Asus 
ส่วน notebook ยี่ห้อ Compact  Acer  ในอเมริกา ไม่ได้รับความเชื่อถือมากนัก + แพง + มีการล็อก Bios ทำให้ไม่สามารถที่จะปรับหรือแก้ค่าต่างๆหรือเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปกับ notebook ได้   Compact มาใช้เด็ดขาด หาไดร์เวอร์ก็ยาก พอสมควร 

สำหรับ Harddisk  นั้นขั้นต่ำต้อง   250  GB หรือ ขึ้นไป  เพราะปัจจุบัน ตัวโปรแกรมหรือตัวข้อมูลต่างๆนั้นมีขนาดใหญ่ๆทั้งนั้นจึงควรมี Harddisk ขนาดความจุมากๆเอาไว้   หรือเลือก  Harddisk แบบ  SATA 

ส่วนหน้าจอที่ใช้ในการแสดงผลนั้น (จอที่เรามองเห็นเลยไม่ได้พูดถึงการ์ดจอนะ) ในส่วนนี้มีผลมากตอนซื้อต้องตรวจสอบให้ดีว่าหน้าจอนั้นมีส่วนที่ bad pixel หรือไม่ เพราะในการรับประกันนั้นถ้าหน้าจอที่ส่วนที่มันเป็น bad pixel ขึ้นมาแต่ว่ามัน bad มากกว่า  4 pixel ต่อจุด บริษัทที่รับประกันจะถือว่าเป็นปกติ ถ้าเราตรวจพบภายหลัง 1 - 2 วันหลังจากที่เราซื้อไปบริษัทก็จะไม่เปลี่ยนสินค้าให้ เพราะเขาถือว่าสินค้านั้นได้มาตรฐาน งานนี้ "ตาดีได้ตาร้ายเสีย" หรือขึ้นอยู่กับทางร้านค้าที่คุณไปเลือกซื้อ  ว่าเขาจะเปลี่ยนให้หรือเปล่า  ดังนั้นก่อนซื้อควรสอบถาม  บริการหลังการขาย ให้ดีก่อน  ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อนะคะ  ฉะนั้นจึงควรพาคนที่รู้เรื่องไปด้วย แต่การที่เขาไม่เปลี่ยนให้นี้ไม่ได้แปลว่าการรับประกันสินค้าสิ้นสุดลง ถ้ามีส่วนอื่นๆที่มีปัญหา เขาก็ต้องรับประกันเราอยู่เหมือนเดิม


ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2